วันจันทร์ที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2560

พลังแห่งความสงบ

บทเรียนที่ได้รับจากสภาพสังคมในปัจจุบันทำให้ได้เข้าใจพลังของความสงบ!!ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น!!
เมื่อต้องประสบกับสภาวะที่วุ่นวาย! สับสน! สภาวะที่ไม่ปกติ ไม่แน่นอน เราควรทำอย่างไร
     "เพื่อให้สามารถเดินไปตามเป้าหมายได้อย่างไม่หวั่นไหว"


เป็นเรื่องปกติธรรมดาที่ย่อมต้องมีคนไม่เข้าใจ! ไม่ชอบใจ!  ไม่ถูกใจเรา!  เพราะเราอยู่กับมนุษย์ผู้มีอารมณ์ ความรู้สึก มีความโลภ ความโกรธ ความหลง  (มีมาตั้งแต่อดีตกาลไม่เคยเปลี่ยน) มนุษย์มักตัดสินผู้อื่นจากมุมมองของตนเอง..เพียงเพราะเขาเหล่านั้น ต้องการให้ผู้อื่นทำให้ถูกใจเขา!! ทำตามที่เขาต้องการ!! หรือเพื่อผลประโยชน์ของตนเอง ..

..เลยต้องหันมาตั้งคำถามกับตัวเองว่า เราจะสามารถทำให้ถูกใจใครทุกคนได้หรือไม่มันก็คงเป็นไปได้ยาก เพราะตัวเราเองบางครั้งยังไม่ถูกใจตัวเราเองเลย!!  นับประสาอะไร..ที่เราจะสามารถทำให้ถูกใจทุกคนได้ในทุกเรื่อง..
ขอเพียงรู้ตัวว่าเราทำอะไรอยู่ รู้อะไรดี! รู้อะไรชั่ว!ถูกต้องตามศีลธรรมไม่เบียดเบียนใครและเคารพตัวเอง จึงไม่ควรเสียเวลาของเรา ไปแบกความคิด คำพูด การกระทำของคนเหล่านั้น เหมือนมีคนนำสิ่งของมามอบให้เรา แต่เราไม่รับไว้ ของชิ้นนั้นก็ยังเป็นของเขา!
เพียงทำใจของเราให้สงบนิ่ง เมื่อเรื่องต่างๆปะทะเข้ามา"จงยิ้มสู้"

                         ภาพจากhttp://www.petsnmore.org
    
การนำใจไปปะทะด้วยไม่เกิดผลดีอะไร!! มีแต่ทำให้จิตตก เสียกำลังใจ!! เสียเวลาไปเปล่าๆ ให้รับรู้ถึงความทุกข์นั้นแล้วตั้งสติให้มั่น!  แทนที่เราจะไปตีโพยตีพาย คิดแค้นใจ ทำเพื่อความสะใจ ไม่มีอะไรดีขึ้น เพราะความจริงแล้วในโลกนี้มีกฏอย่างหนึ่งที่ทุกคนล้วนหลีกหนีไม่พ้น ไม่มีการต่อรองหรือขอลดหย่อนโทษนั้นคือ"กฏแห่งกรรม" 
กฏนี้สำคัญนัก!! ผู้ไม่รู้ก็ต้องรับผลเช่นกัน ดังนั้นไม่มีความจำเป็นใดๆเราจะโกรธ เกลียด ถือโทษผู้ที่คิดร้ายๆ พูดร้ายๆ ทำร้ายๆ ต่อเรา เพราะเขาย่อมได้รับผลของการกระทำอย่างไม่ต้องสงสัย และสิ่งสำคัญอีกประการหนึ่งคือต้องใช้สติต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อย่าตกเป็นเหยื่อของเรื่องเล่าต่อๆกันมา เหยื่อของความเกลียดชัง เหยื่อของการปลุกปั่น เบี่ยงประเด็น  สิ่งเหล่านี้ล้วนทำให้เกิดความสับสนดังนั้น 

ผู้มีปัญญา..ผู้รู้..จึงฝึกยกระดับจิตใจของตนให้สูงขึ้นอยู่เสมอ
ความสว่าง ของปัญญาจึงค่อยๆเปิดแง้ม ให้เห็นช่องทาง การยอมรับ..การให้อภัย..การแผ่เมตตาและการปล่อยวาง จะช่วยให้สิ่งไม่ดีหรือเรื่องร้ายๆนั้นกระจ่างแจ้งและคลี่คลายไปได้ด้วยดี


                        ภาพจาก http://keywordsuggest.org

ขอจงระลึกว่าทุกคนบนโลกนี้ไม่ใช่ศัตรูกัน เราทุกคนเป็นพี่น้อง เป็นเพื่อนร่วมโลกกัน เราจะรู้ได้เมื่อใจนั้นมีความสงบ ความสว่างจะบังเกิด และก่อให้เกิดสันติภาพขึ้นในใจอย่างแท้จริง ก่อเกิดเป็นพลังใจที่พร้อมหยิบยื่นมิตรภาพ..ความรู้สึกที่ดีให้แก่ผู้อื่น เป็นผู้ให้ เป็นผู้สร้างบรรยากาศที่อบอุ่นและเต็มไปด้วยรอยยิ้มในทุกที่..
                 "สิ่งดีๆ เริ่มต้นเมื่อใจสงบ"

Alex…

Free Mind Realm


วันอังคารที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2560

คำสั่ง VS ความศรัทธา: ตอน 2: นิ่ง! สงบ!..สยบเคลื่อนไหว

    นิ่ง! สงบ!..สยบเคลื่อนไหว  *สงบ *สันติ *อหิงสา
     ปกติพอคิดถึงการชุมนุม ภาพสิ่งกีดขวางที่วุ่นวาย ถนนถูกปิดกั้นโดยกลุ่มผู้ชุมนุม สร้างความเดือดร้อนให้แก่ผู้คนอย่างมาก  มีแกนนำ มีการตั้งเวทีใหญ่โต บรรยากาศการชุมนุม คำปราศรัยทรงพลังที่ปลุกเร้า ทำให้ต่อมฮึกเฮิม!!ทำงานอย่างแรง (ต่อมฮึกเฮิมนี้ย้ายที่ไปมาได้ บางทีขึ้นที่ไปปาก..เกิดเป็นวลีเด็ด เสียดแทงจนครกแตกกระจาย ..บางทีลงที่เท้า..อันนี้ไม่ต้องบรรยาย) ภาพเหล่านี้คนกรุงเทพฯ เห็นมาหลายปีดีดัก จนกลายเป็นแฟชั่นการไปม๊อป พร้อมอุปกรณ์ครบครัน พัดเอย เสื้อยืดเอย มือตบ ตีนตบ รวมไปถึง..นกหวีด เลยทำให้เกิดความอยากรู้จนต้องแอบมาส่องการชุมนุมของชาววัดพระธรรมกายบ้างว่าจะเป็นแบบไหน! ทางวัดประกาศว่าการชุมนุมครั้งนี้ยึดหลัก สงบ สันติ อหิงสา(ไม่เคยเห็นของจริงซักที)


      ภาพข่าวที่ทุกสื่อออกมาให้เห็นคือ..ลูกศิษย์วัดใส่เสื้อขาว มานั่งที่พื้นปูนกลางแดด เปรี้ยงๆๆๆๆๆ  หลายชั่วโมงมาก นั่งสวดมนต์ ทำสมาธิ เฉยๆ  ขอย้ำ!! นั่สวดมนต์ เฉยๆ สงบๆ เท่านั้นไม่มีวาทะกรรมตอบโต้ใดๆ ไม่มีแกนนำมาสั่ง ไม่มีเวทีกลาง ไม่มีเครื่องขยายเสียง มีแต่เสียงสวดมนต์..ทั้งวัน ตลอดต่อเนื่อง แต่มีข่าวบางกระแสลือว่า เขามีเครื่องส่งข้อความขนาดเล็กพกติดตัวคอยออกคำสั่งให้คนกระจายไปตามจุดต่างๆ แต่พอเจาะข่าวเข้าไปจริงๆ อ่าว!! ไอ้เครื่องนี้มีแถวสำเพ็งตรึมเลย เป็นเพียงแค่เครื่องนับจำนวนที่ศิษย์วัดเขาเอาไว้นับคำภาวนา “สัมมาอรหัง” กันเท่านั้น ในใจคิดว่า...เขาจะนั่งสงบนิ่งกลางแดด อย่างนี้ไปได้นานแค่ไหนเชียว?  นี่เมืองไทยนะคุณ ขึ้นชื่อว่ามี 3 ฤดู ร้อน! ร้อนกว่า!! และ ร้อนที่สุด!! 



     เราก็มีหน้าที่ตามดูต่อ (ประหนึ่งติดซีรี่ย์เกาหลี) หลายเดือนผ่านมา..ทุกสื่อยังคงกระหน่ำข่าววัดพระธรรมกาย ด้วยถ้อยคำที่รุนแรงมากขึ้น ยกระดับความเข้มข้น แต่การชุมนุมยังคงดำเนินไปเหมือนเดิม ลูกศิษย์วัดใส่เสื้อขาวรวมตัวกันสวดมนต์ “บทธรรมจักรกัปปวัฒนสูตร” (บทสวดนี้เป็นบทสวดที่เล่าเรื่องราวการแสดงปฐมเทศนาของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจนมีผู้บรรลุธรรมตาม) สิ่งที่สังเกตเห็นอย่างหนึ่งคือ วัดนี้เขาทำอะไรเป็นหมู่คณะและจริงจังมว๊าก!  ขนาดสวดมนต์ยังร่วมกันสวดหลายสิบล้านจบ และได้ยินว่าตั้งเป้าไปถึง 30  ล้านจบเลยทีเดียว  เขานั่งสวดกันเป็นชั่วโมงๆ ถ้าไม่มีศรัทธาในพุทธศาสนาอย่างมากคงทำได้ยาก..หากนี่คือวิธีที่วัดพระธรรมกายใช้ต่อสู้...ก็ยังนึกไม่ออกว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป
     ฝ่ายเจ้าหน้าที่ก็ปฏิบัติหน้าที่ไปแบบงงๆ...เพราะได้รับคำสั่งให้สลายฝูงชน อุปกรณ์เตรียมพร้อมทั้งโล่ รถขยายเสียง ทั้งแก็สน้ำตา รถฉีดนำ้แรงดันสูง ครบเครื่องอ่ะ...ดูููแล้วไม่เห็นเลยว่ามวลชนของวัดจะเป็นคูู่ต่อสู้ได้  ในอีกมุมหนึ่งอย่าลืมว่ามวลชนที่นี่เขาชุมนุมในที่ของเขาและรอบบริเวณวัดนะ ไม่กีดขวางการจราจรเลย  ไม่มีการปะทะคารม ไม่มีการใช้กำลัง....เดาว่ายังมีคนอีกหลายแสนคนทั่วโลกที่คอยจับตาดูกรณีนี้อยู่เงียบๆๆ  และอยากรู้ว่าเจ้าหน้าที่จะไปทางไหนต่อ.. 
     ในที่สุดเจ้าหน้าที่ก็งัดกลยุทธ์สลายฝูงชน ด้วยวิธีเชิงจิตวิทยา.... ไอ๋หยา!!งานนี้ชักเข้มข้น..

Alex…
Free Mind Realm


..ติดตามตอนต่อไป..






คำสั่ง VS ความศรัทธา ตอน 1 :ยกพลขึ้นบก

    หนึ่งในข่าวที่ผ่านตาทุกวันในตอนนี้ ทำให้คนที่เคยอยากเป็นทหาร ตำรวจมีโอกาสได้เห็นกระบวนการวางแผนฉากใหญ่ ตั้งแต่การกล่าวหาเพื่อตั้งข้อหา การออกหมายจับเทคนิคและการวางแผนการรบ แผนปราบจลาจล  ยกกองกำลังมาปิดล้อมสถานที่  มีการสนธิกำลังของเจ้าหน้าที่ หลายพันนายจากหลายหน่วยงานเป็นครั้งใหญ่ในประวัติการณ์ งบประมาณหลายสิบล้าน โอ้โห!!อย่างนี้ต้องคดีใหญ่ระดับชาติแน่นอน และก็จริงดังนั้น เป็นกรณีเรื่องวัดพระธรรมกาย วัดพุทธขนาดใหญ่ระดับโลกวัดหนึ่งในประเทศไทย 
    เปิดฉากด้วยการตั้งข้อกล่าวหาท่านอดีตเจ้าอาวาสวัด เรื่องคดีฟอกเงินสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน คลองจั่น แต่อัยการไม่สั่งฟ้อง เพราะหลักฐานไม่เพียงพอ แต่ฝ่ายเจ้าหน้าที่ไม่ลดละ จึงมีวาทะโต้แย้งเกิดขึ้นมากมาย ข้อมูลหลักฐานต่างๆถูกเปิดเผยขึ้นในระยะเวลาอันสั้น  แต่เรื่องก็ไม่ยุติ จนไปถึงขั้นออกหมายจับ !! เหตุเพราะท่านอดีตเจ้าอาวาส ไม่มารายงานตัว (น่ากลัวมาก ข้อกล่าวหานี้!) นี่คือที่มาของมหากาพย์ที่เกิดขึ้นในตอนนี้  กำลังพลมากมายตบเท้ากันออกมาเยี่ยมวัดพระธรรมกาย  ทีมเจ้าหน้าที่ DSI วางแผนการเข้าตรวจค้น แบ่งเป็นโซน ข่าวหลายสำนักทำกราฟิกอลังการงานสร้าง (วัดเขาใหญ่จริงแฮะ) และกระจายกำลังออกค้นทุกตึก ทุกมุม ตามด้วยกำลังสุนัขตำรวจ  ประหนึ่งกำลังทลายแก้งค้ายาเสพติดข้ามชาติ.. แต่ก็ยังไม่พบบุคคลที่ต้องการ ...



     เหตุการณ์ ไม่หยุดแค่นั้น ..ท่านนายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. ได้ประกาศใช้อำนาจ ตาม มาตรา44 กำหนดให้เขตวัดพระธรรมกาย เป็นพื้นที่ควบคุมพิเศษ คำสั่งสายฟ้าแล๊ป!! ใช้ ม.44 เพื่อการปิดล้อมวัดอย่างเข้มงวดไม่ให้มีการเข้าออก  ทำให้พระที่ออกบิณฑบาตในช่วงเช้าก่อนปิดล้อมกลับเข้าวัดไม่ได้  (อันนี้ไม่รู้เป็นหนึ่งในยุทธวิธีหรือเปล่า) 
ทำให้เกิดความโกลาหลครั้งใหญ่ กับพระภิกษุ สามเณร และสาธุชนที่มาสวดมนต์ที่วัดแห่งนี้ ภาพที่เห็นคิดว่าฉากหนังแอคชั่น  รถตำรวจหลายคัน ทยอยเข้ามา อีกทั้งกองกำลังทหารหลายพันนาย พร้อมรถปฏิบัติการทหารกระจายหลายสิบจุด ทั่วทุกมุมในบริเวณคลองหลวง  ตั้งซุ้มบังเกอร์และเต้นท์กองบัญชาการ เหมือนปิดล้อมผู้ก่อการร้ายระดับประเทศ ชาวบ้านที่อาศัยอยู่แถวนั้น จะเข้าบ้านต้องผ่านด่านสกัดและถูกถ่ายภาพบัตรประชาชน  เพื่อขอสิทธิ์เข้าบ้านเรือนของตน บางรายไม่สามารถผ่านทางได้ ลูกหลานไม่สามารถไปโรงเรียนได้...นี่มันสนามรบชัดๆ... ผ่านไปแถวนั้นนึกว่ากองถ่ายหนังฮอลลีวู๊ดมาเองจริงๆ ขอบอกงานนี้จัดหนัก จัดใหญ่ ครบเครื่อง 
แต่เอ๊!! ฉุกคิดขึ้นมาได้!! เขาขนกำลังเจ้าหน้าที่มาสลายฝูงชนขนาดนี้ แล้วการชุมนุมคนวัดนี้เป็นยังไงนะ!! เขาตั้งรับกันยังไง!! ต้องแอบไปส่องต่อ...

Alex...
Free mind Realm




ภาพจาก.https://crime.kachon.com
ภาพจาก.https://crime.kachon.com